
ในปี ค.ศ. 1868 สเปนเผชิญกับวิกฤตการณ์การเมืองและสังคมอย่างรุนแรง ความไม่พอใจที่มีต่อการปกครองของสมเด็จพระราชินี อิซาเบลที่ 2 (Isabella II) ซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้ปกครองที่ไร้ประสิทธิภาพและหัวรั้น โรยด้วยน้ำตาของประชาชนที่อดอยาก ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และความตึงเครียดระหว่างฝ่ายอนุรักษนิยมและเสรีนิยม
จากความระอุที่ทวีคูณนี้ เกิดเป็นการกบฏครั้งใหญ่ขึ้นเมื่อวันที่ 19 กันยายน ค.ศ. 1868 โดยทหารเรือสเปน นำโดยพลเรือเอก โฮเซ มานูเอล ซาริเอน (José Manuel Sarrien) และพลตรี ลาซาโร อีบารา (Lazaro Ibarra)
การกบฏของทหารเรือสเปนถูกจุดชนวนขึ้นจากหลายปัจจัย:
- ความไม่พอใจต่อการบริหารงานของรัฐบาล: ทหารเรือสเปนถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการ mismanagement ของรัฐบาล อาทิ การขาดแคลนอาวุธยุทโธปกรณ์ การบำรุงรักษาที่ไม่เพียงพอ และการจ่ายเงินเดือนที่ไม่ตรงเวลา
- ความต้องการการปฏิรูป: ทหารเรือสเปนสนับสนุนการปฏิรูปทางการเมืองและสังคมเพื่อสร้างสเปนที่มีความเสมอภาคและยุติธรรม
- อิทธิพลของขบวนการ republican:
การกบฏของทหารเรือสเปนเริ่มขึ้นที่เมืองคาดิซ (Cádiz) และแพร่กระจายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ทหารเรือเข้ายึดอาวุธและยึดครองฐานทัพเรือสำคัญหลายแห่ง
การกบฏครั้งนี้มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อสเปน:
- การโค่นล้มราชวงศ์: การกบฏของทหารเรือนำไปสู่การล้มล้างระบอบกษัตริย์ และการสถาปนาสาธารณรัฐสเปนครั้งที่หนึ่ง (First Spanish Republic)
- ความไม่มั่นคงทางการเมือง: สเปนถูกครอบงำด้วยความไม่สงบและความขัดแย้งในช่วงหลายปีต่อมา
- การเปลี่ยนแปลงทางสังคม: การกบฏของทหารเรือเปิดทางให้เกิดการปฏิรูปทางสังคมและการเมือง
| เหตุการณ์ | วันที่ | สถานที่ |
|—|—|—|
| การก่อกบฏ | 19 กันยายน 1868 | Cádiz | | การยึดครองฐานทัพเรือ | 20-25 กันยายน 1868 | Cartagena, Ferrol | | การประกาศสาธารณรัฐ | 27 กันยายน 1868 | Madrid |
การกบฏของทหารเรือสเปนเป็นจุดหักเหสำคัญในประวัติศาสตร์สเปน เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงพลังของการเคลื่อนไหวของประชาชน และผลกระทบที่รุนแรงต่อโครงสร้างอำนาจของประเทศ
สรุป: การกบฏของทหารเรือสเปน (1868) ไม่ใช่เพียงแค่เหตุการณ์ทางทหาร แต่เป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองและสังคมที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสเปน และเปิดประตูสู่ยุคแห่งสาธารณรัฐ